ใช้สมองของตัวเองบ้างสิ
ความเป็นคนเจนวาย(Generation Y)ไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องชื่นชมเทคโนโลยีตลอดเวลานะ ผมขอแชร์รายการสิ่งที่ผมคิดว่าควรทำด้วยสมองแทนมือถือ เผื่อคุณจะรู้สึกเบื่อกับชีวิตประจำวันที่ง่ายเกินไป
- บวก ลบ คูณ หาร เช่น 3188 x 15
- จดจำรหัสผ่าน เช่น
abG77Y^42
- หาเส้นทางไปที่ร้านอาหารที่มีนัดกับเพื่อน
- ฆ่าเวลาก่อนที่รถบัสจะมาถึง
- ตื่นตอน ๗ โมงเช้าทุกวัน
งานดังกล่าวนี้เรามักจะฝากให้มือถือหรือเครื่องมือต่างๆ ทำ แล้วทำไมจะฝากไม่ได้ มือถือสมัยนี้สะดวกมากจนกลายเป็นสมองที่สองของเราทุกคน แต่ถ้าเราใช้สมองจริงของตัวเองน้อยลง มันจะกลายเป็นอะไรหนอ ในความเห็นของผมสมองคล้ายกล้ามเนื้อมาก เราควรออกกำลังสมอง เช่นกับการออกกำลังกาย
ต่อไปผมจะแนะนำรายการงานที่ผมคิดว่าควรพยายามทำด้วย เครือข่ายประสาทเทียม ธรรมชาติของเราเอง
คำนวณ 3188 x 15
ถ้าลองคำนวณ 3188 x 15 เอง เราน่าจะคำนวณผิด เพราะเราไม่ใช่เครื่องคิดเลขอย่างเด็ดขาด แต่เราแยกการคำนวณนี้เป็นส่วนๆ ที่ง่ายกว่าได้
การคำนวณถูกด้วยสมองยากมาก แต่ไม่เป็นไร เอาเครื่องคิดเลขตรวจผลของการคำนวณตอนหลังก็ได้ ที่สำคัญคือ เราควรพยายามคำนวณเองก่อน ไม่ใช่พึ่งพามือถือทุกๆ ครั้งโดยอัตโนมัติ
จดจำรหัสผ่าน abG77Y^42
ไม่มีใครชอบรหัสผ่าน เพราะฉะนั้นมีโปรแกรมเยอะแยะที่จดจำและกรอกรหัสผ่านแทนเราได้ แล้วเราก็ได้วิธีเข้าสู่ระบบที่ง่ายกว่า เช่น ระบบจดจำใบหน้า รูปแบบปลดล็อคหน้าจอ ฯลฯ
แล้วดีเอ็นเอหล่ะ ทำไมจะใช้ไม่ได้ จริงๆ แล้วแม้ว่ารหัสผ่านไม่สะดวกเท่าไหร่แต่มันมีข้อดีที่สำคัญมาก คือ รหัสผ่านไม่ต้องการให้เราเอาข้อมูลส่วนตัวไปฝากให้บริษัทใดๆ ผมไม่มีวันจะให้เฟ็ซบุ๊กลายนิ้วมือของผม แล้วคุณหล่ะ
งั้นเราจะจดจำรหัสผ่านง่ายๆ ได้อย่างไร พูดตรงๆ ก็มีวิธีหนึ่งที่ใช้แล้วจะได้ผลแน่ๆ คือ ใช้สมองของตัวเอง เลิกพึ่งพาเบราว์เซอร์หรือโปรแกรมบันทึกรหัสผ่าน พิมพ์รหัสผ่านแต่ละวัน แม้ว่าปกติคุณไม่ต้องการออกจากเว็บไซต์ แต่อดทนออกจากระบบหลังจากที่ดูเว็บไซต์ใดๆ เสร็จ แล้วก็แต่ละครั้งที่อยากกลับสู่เว็บไซต์ก็พิมพ์รหัสผ่านอีก ถ้าคุณพิมพ์รหัสผ่านหลายครั้งทุกวัน ผมรับรองว่าคุณจะไม่มีวันลืมมันไป
หาทางไปที่อื่น
คุณรู้หรือไม่ สมัยก่อนไม่มี Google Maps หรือ Tencent Maps หรือแอพนำทางต่างๆ ถ้างั้นคนหาทางได้อย่างไร ต้องมีคนหายไปเยอะแยะแน่นอน (<พูดเล่น>
)แล้วถ้าไม่มีแอพบอกให้เรารู้ว่าต้องไปที่ไหนและชมอะไรบ้างเศรษฐกิจท่องเที่ยวจะเป็นอย่างไร(</พูดเล่น>
)
ขอแฉเคล็ดลับการหาทางของ มนุษย์ก่อนมือถือ ที่คุณใช้ได้เวลาต้องหาทางไปถึงบางที่ครับ
-
เอากระดาษวาดแผนที่ก่อนที่ออกจากบ้าน ถ้าคุณเป็นศิลปินลองแต่งมันด้วยภาพมังกรหรืออะไรๆ เพื่อสนุก
-
อ้าปาก ขยับลิ้น แล้วก็ถามทางคนที่อยู่รอบๆ ปกติก็ต้องมีคนแปลกหน้าที่ช่วยได้อย่างน้อยสักคนหนึ่ง นอกจากในกรณีที่คุณกำลังสำรวจทวีปแอนตาร์กติกา
-
เดินเล่น ดูเครื่องหมายและป้ายชื่อถนน หาที่ที่มีจุดสังเกตหรือจุดเด่นที่จำได้ง่าย เช่น ร้าน 7-11 ใหญ่ที่มุมถนน ต้นไม้ที่มีรูแปลกๆ ข้างหน้าไปรษณี
-
ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะหลงทาง วางแผนสำหรับทุกอย่างในชีวิตไม่ได้นะ ต้องลำบากบ้าง
แต่งประโยค
สมัยนี้เทคโนโลยีช่วยให้เราสื่อสารกับมนุษย์คนอื่นมาก วิธีการป้อนข้อมูลแบบเดาคาดคำให้คุณเลือกหนึ่งในสิบคำที่มันคิดว่าคุณน่าจะอยากใช้ โซเชียลเน็ตเวิร์คจัดคำตอบพร้อมใช้ให้เพื่อประหวัดเวลา แอพแชทให้คุณเลือกสติ๊กเกอร์จากรายการเป็นร้อยโดยไม่ต้องลำบากสื่อความรู้สึกด้วยคำใดๆ
ผมกังวลว่าหลังจากที่เราชินกับการฝากการสนทนาให้ซอฟต์แวร์แล้ว บทสนทนาจะกลายเป็นบทจืดๆ ไร้ความโดดเด่น แล้วการรู้ไวยากรณ์จะมีประโยชน์อะไรถ้าซอฟต์แวร์จะจัดการมันแทน
ลองปิดฟังก์ชั่นตรวจสอบคำผิดและแนะนำคำดูสิ ลองสร้างบทสนทนาที่สร้างสรรค์ด้วยตนเองหน่อย
“แต่มันยากลำบากเนอะ”
ความยากลำบากก็มีข้อดีสิ ผมเชื่อมั่นว่ามนุษย์ได้พัฒนาเพราะต้องสู้กับปัญหาต่างๆ ของชีวิต แต่อะไรจะเกิดขึ้นถ้าในชีวิตเจอแค่สิ่งง่ายๆ เท่านั้น คนบางคนคิดว่าเทคโนโลยีจะทำให้เราชนะข้อจำกัดของมนุษย์และรับมือกับข้อท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าผมเห็นด้วยแต่ผมก็ยังคิดว่าเทคโนโลยีของสมัยเราสะดวกมากจนมันทำให้เราพัฒนาและรักษาทักษะหลักไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะคนที่ขี้เกียจเท่ากับผม
ดังนั้น มาทำให้ชีวิตของตัวเอง ง่าย ยากกว่ากันเถอะ