นี่ไม่ได้เล่าเรื่องชีวิตอัศวินผู้ฆ่ามังกรหรือการสำรวจดาวอังคาร แต่มันเรื่องการดำเนินชีวิตของคนอย่างคุณหรือผม

ปกติผมไม่ค่อยชอบมังงะครับ เพราะรู้สึกว่าถูกครอบงำด้วยจำนวนเล่มในซีรีส์มากที่สุดและบ่อยครั้งที่เรื่องราวไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผม นี่คือความเห็นส่วนตัวของผม ผมไม่ได้บอกว่ามังงะทั้งหมดมีคุณภาพไม่ดี แต่ผมแค่ไม่ได้ชอบมังงะเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม ผมตัดสินใจที่จะรีวิวมังงะเรื่องหนึ่งที่ผมอ่านแล้วสะเทือนใจ มังงะเรื่องนี้ชื่อ รักไร้เสียง (ญี่ปุ่น: 聲の形; อังกฤษ: A Silent Voice) โดย โยะชิโทะกิ โออิมะ

ครั้งแรกผมได้ค้นพบ 聲の形 เพราะภาพยนต์อะนิเมะที่ดัดแปลงมาจากเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับเด็กผู้ชายในโรงเรียนประถมคนหนึ่ง (ชื่อ อิชิดะ) ที่รังแกเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิง (ชื่อ นิชิมิยะ) ซึ่งเป็นเด็กหูหนวก เขาขโมยเครื่องช่วยฟังทุกอันของเธอและทำเสียงดังด้านหลังเธอเพื่อทำให้เธอสะดุ้งตกใจ และโดยวิธีต่างๆ สถานการณ์เช่นนั้นที่ทำให้นิชิมิยะต้องย้ายโรงเรียน หลังจากนั้น อิชิดะกลายเป็นคนถูกรังแก โดนเพื่อนๆร่วมชั้นทิ้งและข่มขู่ เหมือนกับที่อิชิดะเคยทำกับนิชิมิยะ อิชิดะจึงค่อยเป็นค่อยไปเริ่มรู้สึกตัวและรู้สึกผิด มังงะเรื่องนี้คือเส้นทางการไถ่โทษของอิชิดะและการต่อสู้กับความรู้สึกผิดและความเหงาที่เขาสร้างขึ้นรอบๆตัวเอง

ทำไมผมถึงชอบมังงะนี้

• มันมีเนื้อเรื่องที่น่าเชื่อถือ อาจจะเป็นเรื่องราวของคุณคุณหรือของผมหรือของคนที่นั่งในรถบัสคันเดียวกับคุณก็ได้ นอกจากนี้ยังบอกเรื่องการเติบโต (ซึ่งไม่ได้ง่าย) ไม่ว่าคุณจะสนุกสนานในวัยเด็กหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าคุณได้รังแกคนอื่นหรือเคยโดนคนอื่นรังแก คุณจะเข้าถึงจิตใจของตัวละครได้ ถ้าคุณเคยสงสัยเกี่ยวกับมิตรภาพที่แท้จริง คุณสามารถค้นหาเรียนรู้อะไรบางอย่างจากมังงะเรื่องนี้ หรือมันจะทำให้คุณคิดถึงวัยเด็กได้

• ตัวละครน่าสนใจและน่าเห็นใจ แต่ละคนมีเอกลักษณ์และมีวิธีการที่แตกต่างกันในการจักการกับความยากลำบาก (หรือจัดการความยากลำบากให้กับผู้อื่น) อย่างเช่น มีผู้หญิงที่รู้สึกผิดเพราะได้ทำให้คนอื่นรู้สึกผิดที่เคยรังแกเธอ และมีผู้ชายคนหนึ่งที่หลีกหนีคนอื่นจนไม่กล้าสบตากับใครอีกแล้ว

• ผมชอบภาพวาด ภาพเน้นใบหน้าและแววตาของตัวละครแต่ละคนเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีขึ้น บางทีภาพรอยยิ้มครอบคลุมทั้งหน้า

สรุปแล้วผมขอแนะนำมังงะเรื่องนี้เต็มที่เลยครับ มันมี ๗ เล่ม ดังนั้นมันจึงมีความยาวพอที่จะสนุกสนาน แต่ไม่ยาวเกินไปสำหรับคนสมาธิสั้นของ เจน วาย (Generation Y) อย่างผม ถ้าคุณไม่มีเวลาพอที่จะเพลิดเพลินกับมัน ลองดูหนังดัดแปลงได้แทน มันคุ้มค่าเช่นกัน